บันทึกอนุทินครั้งที่ 14
บันทึกอนุทิน
วิชา การจัดประสบการณ์วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย (EAED3207)
อาจารย์ผู้สอน อาจารย์จินตนา สุขสำราญ
วันที่ 13 พฤศจิกายน 2557 ครั้งที่ 14
เวลาเรียน 08.30-12.20 น.
สรุปวิจัย
วิทยานิพนธ์
ผลของกิจกรรมการทดลองที่มีต่อทักษะวิทยาศาสตร์ด้านการสังเกตและการจำแนกของเด็กปฐมวัย
ชื่อผู้เขียน นางสาวรุ่งระวี ศิริกิตศัพท์
บัณทิตวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พ.ศ.2549
ความสำคัญของการจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
การจัดกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์แก่เด็กปฐมวัยควรเปิดโอกาสให้เด็กได้สังเกต
กำหนดความคิดเห็นและจำแนกประเภทด้วยตนเอง รวมสรุปถึงผลการทดลองที่ค้นพบครูมีบทบาทที่กำหนดสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นและให้คำแนะนำเกี่ยวกับขอบข่ายต่างๆ
การจัดกิจกรรมให้เด็กได้ใช้ประสาทสัมผัสทั้ง5ในการสังเกต
สำรวจ ค้นคว้า ทดลองเก็บรวบรวมข้อมูลและลงมือทำกิจกรรมด้วยตนเอง
เพื่อให้เกิดการเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งต่างๆมากที่สุดโดยเริ่มจากสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวก่อน
โดยคำนึงถึงความสนใจและความสามารถของเด็ก และสถานการณ์ที่เหมาะสม เพื่อให้ได้รับความรู้
ความเข้าใจ สามารถพัฒนาความคิดและหาคำตอบแบบวิทยาศาสตร์ได้มากที่สุด
ทักษะวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย 6 ทักษะ
1.ทักษะการสังเกต
2.ทักษะการจำแนกประเภท
3.ทักษะการแสงปริมาณหรือการวัด
4.ทักษะการสื่อความหมาย
5.ทักษะการลงความเห็น
6.ทักษะการหามิติความสัมพันธ์
ประชากรกลุ่มตัวอย่าง
ประชากร
กลุ่มประชาชนที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้
คือเด็กปฐมวันที่มีอายุระหว่าง 5-6 ปีที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นอนุบาลปีที่3โรงเรียนอนุบาลคหกรรมศาสตร์เกษตร คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ปีการศึกษา2549จำนวน96คน
กลุ่มตัวอย่าง
กลุ่มตัวอย่าง คือ
กลุ่มเด็กปฐมวัยที่มีอายุระหว่าง 5-6 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นอนุบาลปีที่3
ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา2549 รวม19 คน โรงเรียนอนุบาลคหกรรมศาสตร์เกษตร คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
จากการสุ่มตัวอย่างเฉพาะเจาะจง
กิจกรรมที่1 พีชต้องการแสงแดด
เด็กปฐมวัยได้ทดลองทำการเพาะปลูกเมล็ดถั่วเขียวเพื่อทำการสังเกตการทดลอง
ซึ่งการทดลองผู้วิจัยให้เพาะเมล็ดถั่ว 2 ถาดถาดที่ 1 ปลูกในที่มีแสงแดดส่องถึงถาดที่ 2 ปลูกแล้วใช้กล่องกระดาษครอบไว้ไม่ให้แสงแดดส่องถึง
เพื่อทำการสังเกตว่า ทั้งสองถาดมีความแตกต่างกันหรือไม่ เด็กปฐมวัยได้ผ่านการตั้งสมมติฐาน
และทำการสังเกตทุกวันจนครบ 1 สัปดาห์จากการทดลองพบว่ากิจกรรมนี้เด็กให้ความสนใจมาก
สามารถสังเกตเห็นถึงพัฒนาการและความแตกต่างของสีใบไมที่พบเห็นจากการทดลองและเมื่อสรุปผลกิจกรรมผู้วิจัยให้เด็กปฐมวัยร่วมกันสรุปผลเด็กปฐมวัยสามารถอธิบายผลการทดลองได้อย่างถูกต้อง
กิจกรรมที่ 2 ประสาทสัมผัส
จากการทดลองกิจกรรมนี้ผู้วิจัยแบ่งเด็กออกเป็นกลุ่มประสาทสัมผัสที่ผู้วิจัยกำหนดให้ออกมาคัดแยกประเภทวัตถุตามประสาทสัมผัสได้เด็กปฐมวัยสามารถบอกเหตุผลในการใช้ประสาทสัมผัสได้อย่างถูกต้องแต่มีบางกลุ่มที่คัดแยกประเภทสิ่งของได้ไม่ครบกำหนดผู้วิจัยจึงใช้คำถามกระตุ่นให้เด็กปฐมวัยคิด
ซึ่งเด็กปฐมวัยเมื่อได้รับการกระตุ่นก็สามารถคัดแยกวัตถุได้จนครบตามที่ผู้วิจัยกำหนดให้ได้
กิจกรรมที่ 3
วัตถุลอย–จม
กิจกรรมวัตถุลอยและจม ผู้วิจัยจัดเตรียมวัตถุต่างๆไว้และให้เด็กปฐมวัยทดลองตั้งสมมติฐาน โดยการให้เด็กปฐมวัยช่วยกันคัดแยกประเภทสิ่งของที่สามารถลอยน้ำหรือจมน้ำออกเป็น
2 ตะกร้าก่อนการทดลองเด็กปฐมวัยสามารถแยกวัตถุส่วนใหญ่ได้ถูกต้องแต่มีกระดาษและกระดาษทิชชูที่เด็กๆ คิดว่าลอยน้ำได้โดยให้เหตุผลว่ากระดาษมีน้ำหนักเบาจึงลอยน้ำได้และคัดแยกกระดาษไวในตะกราวัตถุที่ลอยน้ำในการทดลองเด็กปฐมวัยไดออกมาหยิบวัตถุต่างๆลอยน้ำด้วยตนเอง
เมื่อทดลองแล้วเด็กปฐมวัยสังเกตเห็นว่ากระดาษจะค่อยๆ จมน้ำ ซึ่งแตกต่างจากที่ตั้งสมมติฐานไว้ในตอนแรกแต่ก็สามารถอธิบายได้ด้วยเหตุผลของตนเองว่าเป็นเพราะน้ำจะค่อยๆซึมผ่านกระดาษ
กระดาษจึงหนักขึ้นแล้วค่อยๆ จมน้ำไปเอง เมื่อทดลองเสร็จแล้วผู้วิจัยให้เด็กคัดแยกวัตถุทุกชิ้นออกจากกันอีกครั้งจากการสรุปผลเด็กปฐมวัยสามารถแยกวัตถุได้อย่างถูกต้อง
สรุปผลการวิจัยและข้อเสนอแนะ
สรุปผลการวิจัย
จากการวิจัยเรื่องกิจกรรมการทดลองที่มีต่อทักษะทางวิทยาศาสตร์ด้านการสังเกตและการจําแนก
สําหรับเด็กปฐมวัย สรุปผลการวิจัยได้ดังนี้วัตถุประสงค์ในการวิจัยการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลการจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ที่มีต่อทักษะด้านการสังเกตและการจําแนกโดยเปรียบเทียบคะแนนก่อนและหลังการทดลองของเด็กปฐมวัย
สมมุติฐานการวิจัย
สมมุติฐานที่ 1
เด็กปฐมวัยมีทักษะวิทยาศาสตร์หลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลอง
สมมุติฐานที่ 2
เด็กปฐมวัยมีทักษะวิทยาศาสตร์ด้านการสังเกตหลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลอง
สมมุติฐานที่ 3
เด็กปฐมวัยมีทักษะวิทยาศาสตร์ด้านการจําแนกหลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลอง
สมมุติฐานที่ 4
เด็กปฐมวัยมีทักษะวิทยาศาสตร์ด้านการสังเกตและการจําแนกหลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลอง
กิจกรรมที่ 1
เรื่องพืชต้องการแสงแดด
สาระสําคัญ
พืชต้องการแสงแดดเพื่อช่วยในการเจริญเติบโตและการดำรงชีวิตของพืช
จุดประสงค์การเรียนรู
เพื่อให้เด็กสามารถบอกความแตกต่างของพืชที่ปลูกในที่มีแสงแดดกับพืชที่ไม่ได้รับแสงแดดจะมีลักษณะอย่างไร
สื่อและอุปกรณ์
1. ถาดโฟม
2. สําลี
3. เมล็ดถั่วเขียว
2. กลองกระดาษ
3. ใบไมสีเขียวและสีเหลือง
4. ภาพต้นไม้กลางแจ้ง,
ภาพต้นไม่ในกล่อง ,ภาพดวงอาทิตย์
กิจกรรม
ขั้นนํา
1. ครูสนทนากับเด็กถึงกิจกรรมที่จะให้เด็กทำวันนี้คือกิจกรรม
พืชต้องการแสงแดด
2. ครูนําภาพดวงอาทิตย์ให้เด็กดูและร่วมกันสนทนาซักถามโดยใช้คําถามนํา
- ภาพนี้เด็กเคยเห็นที่ไหน และถ้าโลกนี้ไมมีดวงอาทิตย์โลกจะเป็นอย่างไร
3. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับแหล่งที่มาและประโยชน์ของดวงอาทิตย์
4. ครูพาเด็กๆมาที่สนามหญ้า
ให้เด็กๆสังเกตลักษณะของต้นไม้ว่ามีส่วนประกอบใดบ้าง
5. ครูให้เด็กๆฝึกการคาดคะเนว่าต้นไม้ถ้าไม่ได้รับแสงแดดจะมีลักษณะอย่างไรบ้าง
ขั้นสอน
1. ครูให้เด็กๆแบ่งกลุ่มละ
5 คน
2. ให้เด็กๆช่วยกันปลูกถั่วเขียวบนถาดโฟม
2 ใบ ที่เขียนหมายเลขไว้โดยใช้สําลีชุบน้ำวางไว้บนถาดโฟม แล้วให้เด็กๆช่วยกันโรยเมล็ดถั่วเขียวบนสําลีให้ทั่ว
3. นำถาดใบที่1วางไว้ในที่ๆมีแสงแดดส่องถึงถาดใบที่ 2 วางไว้ในกล่องปิดมิดชิดคอยรดน้ำทุกวันและบันทึกผลหลังจากนั้น1 สัปดาห์ให้นำต้นไม้มาสังเกตความแตกต่างอีกครั้ง
ขั้นสรุป
1. ครูติดภาพต้นไม้ที่อยู่กลางแจ้ง
ภาพต้นไม้ที่อยู่ในกล่องไว้บนกระดาน
แจกใบไม้ให้ เด็กๆคนละ 2 ใบ
คือใบสีเขียวและใบสีซีดให้เด็กเลือกติดใบไม้บนกระดาน
ตามที่สังเกตจากการทดลองการประเมินผล
ประเมินผล
ประเมินจากการสังเกตการร่วมกิจกรรม
และการสนทนาตอบคําถาม
กิจกรรมที่ 2
เรื่อง ประสาทสัมผัส
สาระสําคัญ
ประสาทสัมผัสของคนเราทำให้เกิดการเรียนรู้สิ่งต่างๆรอบตัวโดยการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง5
ได้แก่ ตาใช้ในการมองเห็น หูใช้ในการฟังเสียง จมูกใช้ในการดมกลิ่น
ลิ้นใช้ในการรับรูรส และผิวกายใช้สัมผัสสิ่งต่างๆ
จุดประสงค์การเรียนรู้
เพื่อให้เด็กบอกถึงหน้าที่และการรับรู้ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง5 ได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น และ ผิวกาย
สื่อและอุปกรณ์
1. หนังสือ บัตรคํา
2. เครื่องเคาะจังหวะ
วิทยุของเล่นเด็กที่มีเสียง
3. ลูกอม ขนม
4. ดอกไม น้ำหอม
กระดาษหอม
5. กระดาษทราย
ผาไม้กระดาน
6. บัตรภาพอวัยวะประสาทสัมผัสทั้ง
5 ประเภท
กิจกรรม
ขั้นนํา
1. ครูสนทนากับเด็กถึงกิจกรรมที่จะให้เด็กทำในวันนี้
คือกิจกรรมการเรียนรู้จากประสาทสัมผัสทั้ง 5 ได้แก่ ตา หู
จมูก ลิ้น และ ผิวกาย
2. ครูอธิบายถึงความหมายของคำว่า ประสาทสัมผัส ให้เด็กๆฟัง และถามคําถามดังนี้
- เด็กใช้อะไรในการมองเห็น
- เด็กใช้สิ่งใดในการได้ยินเสียงบ้าง
- เด็กๆรู้รสชาดโดยใช้อะไร
- เด็กๆได้กลิ่นได้อย่างไร
- เด็กๆรู้สึกถึงสภาพอากาศได้อย่างไร
3. ครูสอนเพลงตาดูหูฟัง
ขั้นสอน
4. นำอุปกรณ์ที่ครูเตรียมไว้มารวมกันกลางห้อง
5. ครูให้เด็กแบ่งกลุ่มๆละ 5 คน
โดยแต่ละกลุ่มเลือกของตามการใช้ประสาทสัมผัสที่ครูกำหนด ดังนี้
- กลุ่มที่ 1 เลือกของที่ใช้ตาดู
- กลุ่มที่ 2 เลือกของที่ใช้หูฟัง
- กลุ่มที่ 3 เลือกของที่ใช้จมูกดมกลิ่น
- กลุ่มที่ 4 เลือกของที่ใช้ลิ้นชิมรส
- กลุ่มที่ 5 เลือกของที่ใช้ผิวสัมผัส
ขั้นสรุป
1. ครูนําบัตรภาพอวัยวะประสาทสัมผัสทั้ง
5 วางไว้หน้าห้องแล้วให้เด็กๆแต่ละกลุ่มนำสิ่งของที่เลือกไว้มาวางตามภาพประสาทสัมผัส
การประเมินผล
ประเมินผลจากการสังเกตการร่วมกิจกรรมและการสนทนาตอบคําถาม
เพลง ตาดูหูฟัง
ตาเรามีไว้ดู หูเรามีไว้ฟัง
สองขายืนแล้วนั่ง สองหูฟัง สองตาดู